
หากพูดถึงกรดไหลย้อน ตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบัน จะหมายถึงอาการที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับมาที่หูรูดหลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบและเสื่อมลง ทำให้กรดเหล่านี้ไหลมาที่หลอดอาหารและลำคอ ทำให้รู้สึกแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว ไอแห้ง และหากมีอาการเรื้อรังอาจกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
ส่วนในความหมายของแพทย์แผนจีน กรดไหย้อนจะเกิดจากความสมดุลของหยิน (เย็น) และ หยาง (อบอุ่น) ของกระเพาะอาหารหรือตับหรือทั้ง 2 อวัยวะ
โดยสาเหตุของกรดไหลย้อนในแพทย์แผนจีนคือ “ไฟของกระเพาะ” หมายถึง การมีหยางในกระเพาะอาหารมากเกินไป ส่งผลให้ชีพจรเต้นเร็ว อุจจาระแห้ง เกิดความหิวและกระหาย รวมทั้งเกิดความหงุดหงิดและความเครียดเกิดขึ้น
โดยอาหารที่ทำให้ไฟของกระเพาะเพิ่มขึ้น ได้แก่ กาแฟและของเผ็ด ซึ่งทำให้เกิดการเผาผลาญมากขึ้นในกระเพาะอาหาร และกลายเป็นการขาดหยินในที่สุด
อาการกรดไหลย้อนจะทำให้เกิดการสะสมของเหลวในกระเพาะอาหาร เรียกว่า “ความชื้นของกระเพาะอาหาร” ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของเลือดและพลังชี่ในร่างกายเกิดชะลอตัวทำให้รู้สึกอิ่ม พลังมีการเคลื่อนไหวผิดทิศทาง เกิดเป็นกรดไหลย้อน ท้องอืด เหนื่อยล้า และน้ำหนักเพิ่มตามมา
ส่วนไฟของตับจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีอารมณ์โกรธหรือเกิดความเครียด เนื่องจากตับทำหน้าที่ในการควบคุมทางด้านอารมณ์ ดังนั้นหากมีไฟของตับมากเกินไปจึงทำให้อารมณ์ไม่ดีได้
อาหารที่แนะนำทานเพื่อแก้กรดไหลย้อนตามตำราแพทย์แผนจีน
- ทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่น น้ำส้มสายชู กีวี มะเขือเทศ หรือ มะนาว เป็นต้น ทานแล้วจะทำให้ตับเย็นลงส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกที่ดีขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนและเผ็ดจัด รวมทั้งสุราและกาแฟด้วย เพื่อไม่ให้เพิ่มไฟของกระเพาะอาหาร
- ทานอาหารมีสีเขียวและชุ่มชื่น เช่น แตงกวา, มะเขือ, มิ้นต์, ว่านหางจระเข้, กล้วย, แตงโม เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มพลังหยินไฟของกระเพาะสมดุล และมีอาการกรดไหลย้อนลดลง
- ทานอาหารรสขมและฉุน เช่น หัวหอม, หัวไชเท้า, มะระ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยในการขจัดความชื้นของกระเพาะอาหารออกไป
- หลีกเลี่ยงการทานนมและเครื่องดื่มเย็นๆ เพราะจะทำให้เกิดความชื้นของกระเพราะอาหาร
นอกจากนี้ยังควรปรับพฤติกรรมต่างๆ ที่เร่งให้เกิดอาการกรดไหลย้อน เช่น การลดความเครียด, การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี และ การนอนในท่าหัวสูงขึ้นกว่าปกติ เพื่อให้เกิดการไหลลงของพลังในร่างกาย